วันนี้ทางเราจะพาเพื่อน ๆ ไปติดตามชีวิตของ “หนุ่มเต้ย” หนุ่มผู้พิการทางสายตา วัย 23 ปี ที่สู้ชีวิตถึงแม้ตามองไม่เห็น ขยันทำงานไม่เคยคิดยอมแพ้ต่อโชคชะตา ลั่นขอเดินหน้าหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสำหรับคนสู้ชีวิต “นายชัยชนะ กล้าหาญ” หรือ “เต้ย” วัย 23 ปี หนุ่มอุดรธานี ปัจจุบันอาศัยอยู่ห้องเช่า ถ.อดุลยเดช เขตเทศบาลนครอุดรธานี กว่า 5 ปีแล้วที่ เค้าได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกของความมืด เต้ยเล่าว่ามีอาการผิดปกติทางสายตาตอนอายุ 18 ปีส่วนพ่อแม่ก็เสียแล้ว ต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง ด้วยการนำดอกกุหลาบมาขายเพื่อเลี้ยงชีพตัวเอง โดยจะเดินขายตามเส้นทางถนนประจักษ์ศิลปาคมเป็นประจำทุกวัน ซึ่งเป็นเส้นทางที่เค้านั้นคุ้นชิน ทำให้คนที่พบเห็นต่างชื่นชมในความที่เค้านั้นไม่ยอมแพ้เต้ยบอกว่า เขาต้องฝึกฝนตัวเองอยู่นาน และพยายามปรับตัวและเขาก็ทำสำเร็จ หันไปพึ่งประสาทสัมผัสอื่น ๆ มากขึ้น เช่น ฟังเสียงดมกลิ่น และใช้มือจับหรือคลำสิ่งต่าง ๆ เพราะเค้านั้นไม่ได้เป็นมาแต่กำเนิด ถ้ายังอยากใช้ชีวิตอยู่ ก็อย่ายอมแพ้ทำอะไรได้ก็ทำต้องปรับตัว สู้กับปัญหา แล้วก็มีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหน่วยงานเข้ามาดูแลแต่เค้าเลือกเองที่จะใช้ชีวิตแบบนี้เอง เต้ยยังบอกอีกว่า ถึงแม้ว่าเค้าจะมองไม่เห็น แต่ก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไป แค่ต้องพยายามมากกว่าคนอื่น การมองไม่เห็นมันเป็นแค่อุปสรรคหนึ่ง ที่ทำให้เราทำอะไรยากกว่าคนปกติแต่ต้องเรียนรู้ ที่จะต้องอยู่กับมัน เพราะเค้านั้นต้องมีค่าใช้จ่าย ค่าเช่าห้อง ค่ากินค่าอยู่หากยอมแพ้แล้วชีวิตจะไปต่อได้อย่างไร …

ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตจำนวนมากกำลังให้ความสนใจ สำหรับเรื่องราวของ “หนุ่มพิการสู้ชีวิต” ทำอาชีพวิ่งแกร็บฟู้ด งานนี้เจอลูกค้าเท สั่งอาหาร 3 พัน แล้วหนี งานนี้ทำเอาเจ้าตัวถึงกับนั่งร้องไห้ โชคดีมีผู้ใจบุญ มาช่วยซื้อ พร้อมจ่ายเงินให้ทั้งหมด หนุ่มขับแกร็บฟู้ด นั่งร้องให้ข้างทาง มีคนเข้าไปสอบถามกลับพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง เนื่องจากหนุ่มขับแร็บได้พิการทางหูและเป็นใบ้ จึงได้หาคนที่เป็นล่ามมาสื่อสารเพื่อสอบถามเรื่องราว ต่อมาทราบว่าชื่อ นายวรวุฒิ เอกผล อายุ 37 ปี นายสุนทร เบ้าไธสง อายุ 39 ปี เพื่อนที่ขับแกร็บฟู้ดด้วยกัน ลูกค้าเข้ามาแล้วกดสั่งอาหารหลายรายการ รวมเป็นเงินกว่า 2,951 บาท เมื่อ นายวรวุฒิ ได้ไปถึงที่หมายตามหมุดที่ลูกค้าปักไว้ เวลา 10.00 น. ได้ติดต่อลูกค้าทางแอพพลิเคชั่นข้อความ แต่ลูกค้าไม่อ่านและไม่ตอบ จากนั้นได้ติดต่อทางโทรศัพท์ก็ไม่รับสาย รอจนถึงเที่ยงไม่มีการตอบรับใด ๆ จึงคิดว่าถูกลูกค้าสั่งของแล้วไม่เอาแน่นอน จึงได้ขับรถกลับมาที่คิวจอด นั่งเสียใจบอกว่าถูกหลอกแล้วเงินหมดแล้ว ลูกค้าสั่งของแล้วไม่เอา วันนี้ไม่มีทุนในการรับออเดอร์แล้ว พร้อมร้องไห้ระบายอารมย์กับเพื่อน ๆ ต่อมา นายภาสกร หอมหวล อดีตสท.เทศบาลเมืองแสนสุข ทราบข่าวจึงไดัติดต่อหา นายวรวุฒิ ผู้เสียหายพร้อมเหมาซื้อของที่ลูกค้าสั่งแล้วไม่เอา ขอขอบคุณที่มาจาก …

ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดน่าประทับใจที่ชาวเน็ตจำนวนมากกำลังให้ความสนใจ ซึ่งวันนี้เองทางเราจะพาเพื่อน ๆ มาติดตามเรื่องราวที่น่าชื่นชมนี้กัน เป็นเรื่องราวของหนุ่มแกร็บน้ำใจงามคนหนึ่ง ที่ได้ไปพบเห็นคุณลุงพิการท่านหนึ่งโดยบังเอิญ ที่กำลังนั่งหนาวสั่น ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ หนุ่มแกร็บจึงจอดรถช่วยสวมเสื้อกันหนาว พร้อมให้เงินช่วยเหลือ ถือว่าเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่พบเห็นในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก เมื่อมี “หนุ่มแกร็บฟู้ด” รายหนึ่งได้เข้าช่วยเหลือคุณลุงพิการขับรถจักรยานสามล้อ ลงไปสวมเสื้อกันหนาว พร้อมกับมอบเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับคุณลุงอีกด้วย โดยทางผู้ใช้เฟซบุ๊ก “พงศกร สุขจิตร” ได้มีการเผยคลิปและรูปภาพของเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกับระบุข้อความว่า “Grab คนนี้นิสัยดีมากครับน้ำใจงามมาก เห็นคนพิการแล้วยังเข้าไปช่วยแถมยังให้เงินคุณลุงอีก ขอให้ประเทศเรามีแต่คนที่มีน้ำใจแบบนี้นะครับ” คลิ๊กเพื่อชมคลิป ขอขอบคุณที่มาจาก :

ชีวิตคนเรานั้น มีทั้งคนรวยคนจนปะปนกันไป คนรวยก็รวยไม่มีที่สิ้นสุด คนจนก็จนลงไปทุกๆ วัน อย่างเรื่องราวสุดน่าสงสารที่เราได้นำมาฝากเพื่อนๆ ในวันนี้ หลังบนโลกออนไลน์ได้มีเพจเฟซบุ๊ก “สหายโพธิ์ดำ” ได้มีการเผยเรื่องราวของคุณยายออนศรี คุณยายพิารวัยชราจาก จ.ศรีสะเกษ เดินทางข้ามมายัง จ.สุรินทร์ เพื่อขอเงินจากผู้ใจบุญพอได้เป็นค่าอาหารเลี้ยงชีวิตและต่อลมหายใจ โดยระหว่างนั้นคุณยายควักถุงข้าวออกมานั่งกินมะขามหวาน เพื่อบรรเทาความหิว ซึ่งทางเพจได้มีการระบุข้อความดังนี้ คนเราไม่เท่ากัน 18 กุมภาพันธ์ 2564 แอดมินได้มีโอกาสมาแวะตลาดสำโรงทาบได้พบคุณยายท่านหนึ่งชื่อ คุณยายออนศรี ราชรักษา เป็นคนพิการ แอดมินจึงสอบถามคุณยาย คุณยายให้การว่าตนเองเดินทางมาจากอำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ มาตลาดสำโรงทาบจังหวัดสุรินทร์ เดินไปมาเพื่อขอเงินจากผู้ใจบุญพอได้เป็นค่าอาหารเลี้ยงชีวิตและต่อลมหายใจ จากนั้น แอดมินสังเกตเห็นคุณยายเดินมาที่ร้านขๅยมะขามหวาน จากนั้นก็นั้งพักด้วยความเหนื่อยล้าจากนั้นก็ควักถุงข้าวออกมาจากกระเป๋านั่งกินมะขามหวานที่แอบหยิบในร้านที่ขายมะขามหวานมาลูกหนึ่ง แอดมินจึงถามคุณยาย ว่ายายทำอะไรคะ คุณยายก็บอกว่ากินข้าวจร้าหนู แล้วยายกินข้าวกับอะไรคะ คุณยายก็บอกว่ากินกับมะขามหวานกับข้าว ยายกินอะไรก็ไม่อร่อยเลยและก็ไม่มีเงินด้วย ในขณะที่คนอื่นได้รับเงินในโครงการชัยชนะแต่คุณยายต้องมานั้งขอเงินจากผู้ใจบุญ แอดมินจึงซื้อมะขามให้คุณยาย 1 กิโลกรัม และที่แอดมินถึงกับน้ำตาไหลก็คือมะขามถุงนี้ยายกินกับข้าวได้ 3 วัน แอดมินจึงได้มอบเงินบางส่วนให้คุณยายเป็นค่ารถในการเดินทางกลับจังหวัดศรีสะเกษถึงไม่มากแต่อย่างน้อย ๆ ก็พอช่วยเหลือคุณยายได้ไม่มากก็น้อย คนเราไม่เท่ากันจริง ๆ บางคนมีก็เหลือล้นส่วนคนไม่มีก็ต้องดิ้นรนเพื่อหาทางรอดต่อไป ขอขอบคุณที่มาจา : สหายโพธิ์ดำ

เป็นภาพที่เห็นได้ไม่บ่อยมากนัก สำหรับการช่วยเหลือกันของคนในสังคมปัจจุบัน ซึ่งวันนี้ทางเราจะพาเพื่อนๆ ไปชมเรื่องราวดีๆ ของหนุ่มแกร็บน้ำใจงาม เห็นคุณลุงพิการนั่งหนาวสั่น จอดรถช่วยสวมเสื้อกันหนาว พร้อมให้เงินช่วยเหลือ ถือว่าเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่พบเห็นในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก เมื่อมี “หนุ่มแกร็บฟู้ด” รายหนึ่งได้เข้าช่วยเหลือคุณลุงพิการขับรถจักรยานสามล้อ ลงไปสวมเสื้อกันหนาว พร้อมกับมอบเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับคุณลุงอีกด้วย โดยทางผู้ใช้เฟซบุ๊ก “พงศกร สุขจิตร” ได้มีการเผยคลิปและรูปภาพของเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกับระบุข้อความว่า “Grab คนนี้นิสัยดีมากครับน้ำใจงามมาก เห็นคนพิการแล้วยังเข้าไปช่วยแถมยังให้เงินคุณลุงอีก ขอให้ประเทศเรามีแต่คนที่มีน้ำใจแบบนี้นะครับ” ทั้งนี้ หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวมีการเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและเเชร์ส่งต่อข้อความเป็นจำนวนมาก ต่างชื่นชมหนุ่มแกร็บฟู้ดที่มีน้ำใจเข้าช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาสทางสังคม ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย ๆ แต่ก็ทำให้หัวใจพองฟูกับความประทับใจครั้งนี้ได้ คลิ๊กเพื่อชมคลิป ขอขอบคุณที่มาจาก : พงศกร สุขจิตร

ต้องบอกเลยว่ามีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยที่กำลังให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องราวของพ่อค้ารายนี้ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังท้อได้เป็นอย่างดี เมื่อล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Medsaii Arpa ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ เกี่ยวกับพ่อค่ารายหนึ่งที่เธอได้บังเอิญไปพบเข้า ขณะที่กำลังเดินเที่ยวงานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์และงานกาชาดจังหวัดสมุทรปราการ ประจำปี 2563 พ่อค้าหนุ่มรายนี้ แม้จะไม่มีมือแขนเหมือนคนอื่นๆ ทั่วไป แต่ก็หยิบของและบอกรายละเอียดสินค้าด้วยความสุภาพอ้อนน้อม แถมทอนเงินให้ลูกค้าได้อย่างไม่มีบกพร่อง นั่งขายของยิ้มแย้มแจ่มใส ทำเอาหลายคนที่แวะเวียนผ่านมามีรอยยิ้มกันหมด ซึ่งพ่อค้ารายดังกล่าว ขๅยของประเภทกิฟต์ช็อปเล็กๆ มีทั้งกระเป๋า หวี กระจก และสินค้าน่ารักๆ อีกมากมาย ในราคาเพียงชิ้นละ 20 บาทเท่านั้น ซึ่งหญิงสาวประทับใจพ่อค้ารายนี้มาก เมื่อได้ไปอุดหนุนจึงได้นำมาบอกต่อในโซเชียล หวังว่าจะมีคนมาอุดหนุนพี่คนนี้เยอะๆ เพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจคนที่กำลังสู้ชีวิต เมื่อโพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาให้กำลังใจพ่อค้าหนุ่มเป็นจำนวนมาก หลายคนกล่าวว่า หากมีโอกาสได้ไปแวะเวียน จะต้องไปอุดหนุนอย่างแน่นอน คุณพี่คนนี้นั่งขายของอยู่ที่ฝั่งพระสมุทรเจดีย์ โดยพิกัดให้เดินมาทางรถบั๊มของงาน และเดินเลยโรงลิเกเล็กน้อย จากนั้นให้เลี้ยวตามโค้งถนน ก็จะเจอพี่เขานั่งขายข้างกำแพง ขอขอบคุณที่มาจาก : เฟซบุ๊ก Medsaii Arpa

ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่มีชาวเน็ตจำนวนมากให้ความสนใจกี่ยวกับเรื่องราวชีวิต ของหนุ่มพิการ เดินหิ้วขนมโดนัทขายตามไฟแดง บ้านโรงไม้ขีด ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แม้เขาจะเกิดมาพิการแต่ไม่เคยท้อในโชคชะตา ขยันทำมาหากิย ดิ้นรนทำงาน เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว จากการสอบถามทราบว่า ชายหนุ่มสู้ชีวิตคนนี้ชื่อ นายกฤษณ เจริญพร หรือ “ขุน” อายุ 20 ปี พื้นเพเป็นคนจังหวัดสุรินทร์ เล่าถึงที่มาของตนว่า เกิดที่บ้านหนองจิก ต.หนองบัว อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เกิดมาก็มีแขนไม่เหมือนคนอื่น แขนสองข้างสั้นกุดโดยไม่ทราบสาเหตุ ต้องอยู่อาศัยกับคุณตาคุณยายและป้าตั้งแต่เกิด เพราะพ่อแม่เลิกกัน ซึ่งยายกับป้าก็ได้พาไปรักษาแต่ก็ไม่หาย และช่วยเลี้ยงดูฟูมฟักจนเติบใหญ่ พร้อมส่งเสียเล่าเรียนจนสำเร็จการศึกษา ซึ่งในระหว่างเรียนด้วย ชีวิตเต็มไปด้วยความยากลำบาก จึงดรอปเรียนมาหางานทำที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งใน กทม. แต่ด้วยตนมีปมที่แขน จึงถูกกดดันจากที่ทำงานจนต้องลาออก และหันไปทำงานโรงงานแต่ก็เข้ากันไม่ได้กับแรงงานต่างด้าวด้วยต่างภาษา จึงมุ่งหน้ากลับบ้านเกิดไปเรียนต่อจนสำเร็จการศึกษาในระดับชั้น ปวช.วิศวกรรมโยธา จากวิทยาลัยอาชีวะจุลมณีอุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ จากนั้นจึงมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงเพื่อมาหางานทำ แต่ก็ไม่มีแห่งใดอ้าแขนรับด้วยความไม่เป็นปกติของตน จึงตัดสินใจมาสู้ชีวิตเอาข้างหน้าที่เมืองพัทยา จนมารู้จักกับเจ้าของกิจการ “แฟนฉันโดนัท” หยิบยื่นน้ำใจให้งานทำพร้อมที่อยู่อาศัย ซึ่งตนก็ทำเรื่อยมากว่า 7 เดือนแล้ว โดยแบ่งรายได้บางส่วนส่งให้ตากับยายที่อยู่ทางบ้านที่สุขภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง นายกฤษณ เล่าด้วยเสียงสั่นเครือว่า ด้วยสภาพร่างกายแบบนี้ ที่ผ่านมาก็ถูกว่า โดนดูแคลน จนได้รับความอับอายในบางครั้ง …

คนเราเลือกเกิดไม่ได้ บางคนเกิดมาครบ 32 แต่ทำตัวไม่เป็นประโยชน์แก่สังคม บางคนเกิดมาพิการ ยากจน แต่ทำตัวเป็นประโยชน์ ให้สังคมก็มีมากมาย อย่างเรื่องราวสุดน่าสงสาร ที่เราจะนำมาฝากในวันนี้ ทางเราขอส่งต่อเรื่องราวเพื่อเป็นสะพานบุญ ช่วยเหลือ ยายจันที ผู้ที่พิกๅรมาแต่กำเนิด อาศัยเพิงเล็ก ๆ แค่พอได้หลับนอน โดยทางเพจ วารินชำราบบ้านเฮา อุบลราชธานี ได้โพสต์ภาพของคุณยายบอกเล่าเรื่องราวของคุณยาย เพื่อเป็นสะพานบุญ พร้อมระบุว่า ขอเป็นสะพานบุญให้คุณแม่ จันที จันทร์พวง พิกๅรตั้งแต่กำเนิด เดินได้โดยใช้ไม้เท้าพยุง เขาห้องน้ำเองได้ พักอาศัยอยู่เพิงเล็กๆ บ้านเลขที่ 70 ม.6 บ้านท่างอย ต.บุ่งหวาย ก่อนหน้านี้คุณแม่จันที มีบ้านในที่ของตัวเอง แต่ได้ผุพังลงเนื่องจากปลวกกินและโดนพายุฝนเมื่อปีที่แล้ว แล้วน้องชายคุณแม่ก็ปลูกบ้านให้พออยู่ไปก่อน เพราะจะให้คุณแม่มาอยู่ที่บ้านด้วยกัน ท่านก็ไม่มาเพราะเกรงใจ แต่ก็ดูแลกันมาตามอัตภาพตลอด ส่วนน้องชายก็มีอาชีพหาเช้ากินค่ำไปหารับซื้อปลามาตากแห้งให้ภรรยาไปขๅยตลาดอีกต่อหนึ่ง ทางผู้นำชุมชน นำโดยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 และ เสี่ยดร ร้าน ดีแอนเจ ผ้ายืดวารินชำราบ ขอรับบริจาค วงกบ ประตู หน้าต่าง มือ 2 เหลือใช้ ได้มาบางส่วน แต่ยังไม่เพียงพอ …

อีกหนึ่งเรื่องราวชีวิตสุดน่าสงสาร ที่มีชาวเน็ตจำนวนมากให้ความสนใจ ซึ่งเป็นเรื่องราวชีวิตของคุณตาขาพิการท่านหนึ่ง ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างรันทด ต้องเก็บของเก่าขายเพื่อหาเงินประทังชีวิต เพียงแค่ 200 บาทต่อเดือน เรื่อวราวจะเป็นอย่างไรไปชมพร้อมๆ กันเลยค่ะ วันนี้ขอนำเสนอเรื่องราวของคุณตาวัย 72 ปี ที่แม้ว่าคุณตาไม่มีขาทั้งสองข้างมานานกว่า 27 ปีแล้ว คุณตา ก็ สู้ชีวิต ไม่ถอย สาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะเกิดอุบัติเหตุ และเหตุการณ์นั้นทำให้คุณตาเสียลูกชายไป หลังจากนั้นมาคุณตาต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง ชีวิตของคุณตาต้องออกไปกับจักรยานสามล้อ เก็บขวดขๅยเลี้ยงชีพ ซึ่งทั้งเดือนทำให้คุณตามีรายได้ 200 บาทต่อเดือน ทางเพจนางฟ้าซาลอนจึงออกมานำเสนอเรื่องราวเพื่อเป็นสื่อที่จะช่วยเหลือคุณตา ซึ่งทางเพจได้เล่าเรื่องราวชีวิตที่น่าสงสารของคุณตาพร้อมย้ำว่า คุณตามีรายได้เพียงเดือนละ 200 บาท ทางเพจอยากจะช่วยปรับปรุงกระท่อมที่คุณตาอาศัยอยู่ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ สำหรับผู้ใจบุญสามารถส่งข้าวสารอาหารแห้งต่างๆ มาได้ที่ คุณลุงนัด ยี่สันเทียะ บ้านเลขที่ 154/1 หมู่11 ต.โนนไทย อ.โนนไทย จ. นครราชสีมา 30220 ซึ่งหลังจากเรื่องราวเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตหลายคนเข้ามาให้กำลังใจและยังร่วมโอนเงินบริจาคให้คุณตาอีกด้วย ขอขอบคุณที่มาจาก : นางฟ้าซาลอน

คนเราเกิดมาแม้ทุกข์ยากลำบาก ในเมื่อชีวิตต้องเดินต่อไป คนเราก็ต้องสู้ชีวิต เพื่อปากท้องของตัวเอง และบนโลกใบนี้ไม่มีใคร ที่จะสามารถช่วยเหลือเราได้เท่าตัวเราเอง อย่างเรื่องราวในวันนี้ เป็นเรื่อวราวของคุณ ป้าวัย 54 ปี ที่บ้านดอนน้อย ต.ดอนใหญ่ อ.คง จ.นครราชสีมา คุณป้า กระดูกสันหลังค่อม ซ้ำยังเป็นโรคหัวใจรั่ว แต่ก็ไม่ท้อ ทำกระกระเป๋าจากวัสดุเหลือใช้จำหน่ายเพื่อเลี้ยงตัวเอง นางทินกร สุวรรณกลาง อายุ 54 ปี เจ้าของงานกระเป๋า เปิดเผยว่า ตนเองกระดูกสันหลังค่อม ตั้งแต่กำเนิดและยังป่วยเป็นโรคหัวใจรั่ว ต้องไปพบแพทย์ทุก 6 เดือนกินยาอย่างต่อเนื่อง เมื่อ 10 ปีก่อน ตนเองได้ไปทำงานโรงงานที่กทม และทำงานเป็นแม่บ้าน พนักงานร้านมินิมาร์ท ถึงแม้ว่าร่างกายจะไม่สมบูรณ์เต็ม 100% แต่ตนก็ไม่เคยย้อท้อ 4 ปีที่ผ่านมาคุณแม่ไม่สบายหนัก ทำให้ป้ากุ้งต้องออกจากงานมาดูแลคุณแม่ที่บ้าน ช่วงแรกทำขนมขๅยตามตลาดและเร่ขๅยในหมู่บ้าน พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องและเลี้ยงแม่ จากนั้นคุณแม่ก็ได้จากไปตนเองอาศัยอยู่ที่บ้านคนเดียว น้องสาวมาชวนไปอยู่ด้วยที่บ้านแต่ตนเองไม่ไปเพราะไม่อยากทิ้งบ้านไปและชอบอยู่คนเดียว ตนได้ศึกษาเรียนรู้วิธีการทำเครื่องจักสานจากยูทูป เริ่มจากกระทำกระเป๋าจากซองกาแฟซึ่งเป็นที่นิยมของคนในชุมชนและท้องตลาดในเวลานั้น จากนั้นกระแสการใช้กระเป๋าจากซองกาแฟได้เงียบหายไป จึงทำให้รายได้ลดลง มีเพียงเบี้ยคนพิกๅร และบัตรสวัสดิ์การคนจuเท่ๅนั้น จึงได้คิดว่าจะทำอะไรขๅยอีกและเป็นที่ต้องการของตลาด ตนได้ไปเจอวิธีการทำกระเป๋าสานพลาสติก จึงได้เรียนจากยูทูปจนทำความชำนาญ สามารถทำออกมาได้หลายแบบตามที่ตลาดต้องการ มีความฝันอยากขๅยออนไลน์ อยากต่อยอดขๅยให้ได้เยอะๆ …