เวทนาชีวิต สองแม่ลูก ความเป็นอยู่สุดลำบาก อาศัยบ้านไม่มีพื้น ไม่มีผนัง เรื่องราวจากคุณครูท่านหนึ่ง เมื่อเดินทางไปเยี่ยมบ้านลูกศิษย์ กลับเห็นความเป็นอยู่ที่น่าสงสาร น.ส.จตุพร ราชเพียแก้ว หรือ น้องแหวน อายุ 16 ปี อยู่บ้านใหม่ไทยเจริญ ต.ป่าแดง อ.ชาติตระการ จ.พิ ษณุโลก นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนชาติตระการวิทยา น้องแหวนเป็นนักเรียนดีเด่น ทั้งด้านกิจกรรม ความประพฤติเรียบร้อย ที่สำคัญมีผลการเรียนดีเด่นอันดับ 1 ของโรงเรียน ซึ่งมีฐานะทางบ้านยๅกจน จากตรวจสอบสภๅพความเป็นอยู่ พบว่า น้องแหวน อาศัยอยู่กับแม่ คือ นางโฮม ราชเพียแก้ว อายุ 53 ปี เนื่องจากคุณพ่อเสียไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว รายได้ของครอบครัวมาจาก การรับจ้างทั่วไป และเก็บขยะขาย ทั้งบ้านมีรๅยได้เพียงเดือนละ 1,000-1,200 บาท กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก 300 บาท สภาพบ้านเป็นเพิง ไม่มีพื้น ไม่มีฝาผนัง มีเพียงเสากับหลังคา น้องแหวนและแม่ต้องอาศัยนอนในเต็นท์เก่าๆ ที่มีคนบริจาคมาให้ วันไหนฝนตกหนัก ลมแรง …

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ทำเอาชาวเน็ตจำนวนมากต่างให้ความสนใจ เมื่อล่าสุดบนโลกออนไลน์ได้ออกมาเเชร์คลิปวิดีโอ ของหนูน้อยเดินมาขอน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวนำไปกินกับข้าว โดยทางด้านผู้ใช้ TikTok ที่ใช้ชื่อว่า “Ball AF” ได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวของเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ที่ได้เดินมาขอน้ำซุปที่ร้านก๋วยเตี๋ยว โดยระบุข้อความว่า “วันนี้เห็นน้องเดินมาเลยถ่ายคลิปไว้ #ยากจน #เด็กน้อยสู้ชีวิต” โดยคลิปดังกล่าวเผยให้เห็นภาพเด็กหญิงเดินมา เเละมีการพูดคุยเเละสอบถามว่ามาทำอะไร โดยเด็กหญิงกล่าวว่า มาขอน้ำซุปเอาไปกินกับข้าวเอาไปกินกัน 5 คน น้องเเละเเม่ที่รออยู่บ้าน จากนั้นก็มีการให้นั่งรอ เเล้วเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวก็ได้ทำให้ เพียงเเค่ข้ามคืนมีชาวเน็ทเข้ามาชมจนยอดวิวทะลุกว่า 5.1 ล้านวิว เเละมีทั้งชื่นชมเเละเเชร์เรื่องราวดังกล่าวจำนวนมาก ล่าสุด วันที่ 31 มี.ค. 65 เมื่อเวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังร้านก๋วยเตี๋ยวยายพัน ตั้งอยู่ที่ หมู่ 4 ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้พบกับ นางสาวอำพัน วีระจันทร์ อายุ 57 ปี เจ้าของร้าน ที่อยู่ในคลิป โดยร้านจะมีอาหารตามสั่งมากมาย รวมทั้งอาหารอีสาน เเละมีหม้อน้ำซุปอยู่ด้วย นางสาวอำพัน เปิดเผยว่า คนที่เอาไปลง TikTok คือลูกชายชื่อ …

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภาพ หนึ่งเรื่องราวที่สะท้อนความรู้สึกได้ดีมาก ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ชาวเน็ตจำวนมากให้ความสนใจ ทางเราจึงขอหยิบมาฝากให้เพื่อนๆ ทุกคนได้ชมภาพของคุณ พ่อ ผิวคล้ำ เสิ้อไม่ใส่ กำลังปั่นจักรยานเก่าไป ซึ่งมีลูกสาวซ้อนท้ายจักรยานเก่า ๆ คันนั้นอยู่ เป็นภาพที่ให้ความรู้สึกหลากหลาย สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบดูถูกพ่อ น้อยเนื้อต่ำใจว่าเกิดมาจน ให้ดูเรื่องนี้เป็นตัวอย่าง พ่อลูกคู่นี้ชนะใจไปเลย…..พ่อยาจกส่งลูกสาวเรียนบัญชี ภาพชินตาพ่อแก่ ๆ ผอมโซ รูปร่างเหมือนขอทาน ๆ เหมือนยาจกหน้าตามอมแมม เนื้อตัวผิวดำกร้าน กางเกงขาด ๆ กับจักรยานผุ ๆ จะพังไม่พังมิพังแหล่ ในอากาศหนาว ๆ เย็น ๆ ถีบจักรยานพวงลูกสาวไปส่งที่ท่ารถ เพื่อขึ้นรถไปเรียน…ในทุก ๆ เช้าและรอลูกกลับบ้านทุก ๆ เย็นที่อำเภออู่ทอง (ลูกสาวเรียนบัญชี)…… พ่อ..ไม่เคยอายใครว่าพ่อจนไม่มีรถดี ๆ มีแค่จักรยานผุ ๆ เก่า ๆ ปั่นไป คอยรับ-ส่งลูกสาวคนนี้ไปเรียน พ่อ..ไม่มีเสื้อผ้าดี ๆ ไม่มีใส่ มีแต่เสื้อเก่า ๆ กับกางเกงขาด ๆ ยามหนาว ยามร้อน ก็ทนเพราะความจนมัน …

ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตกำลังให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมากสำหรับเรื่องราวของพ่อค้าใจดีคนหนึ่ง ที่ได้เอาอาหารให้สุนัขจรจัด ทุกคนชีวิตเกิดมาไม่มีใครอยากถูกทอดทิ้ง อย่างเช่นน้องหมาที่เป็นสัตว์จรจัด หลายชีวิตได้แต่รอคนใจบุญเข้ามาช่วย อย่างเรื่องราวสุดซึ้ง เมื่อมีพ่อค้าลูกชิ้น ผู้ใจบุญ เข้ามาช่วยน้องหมา หลังจากมีการเผยแพร่ผ่านเฟสบุ๊ค ชาวเน็ตต่างแห่ชื่นชมกันเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าของเฟซบุ๊ก ‎ลักกี้ นำโชค‎ ได้โพสต์ลงในกลุ่ม หมาจรแมวจรชลบุรี พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวสุดแสนที่จะประทับใจว่า… “วันนี้ไปนั่งชายหาดบางเสร่เห็นภาพที่ประทับใจมากจนอดที่จะถ่ายรูปไม่ได้เลย และอดที่จะแชร์ให้โลกรู้ไม่ได้เลย ชื่นชมจากใจจริงๆ คนจuผู้ยิ่งใหญ่หนุ่มขายลูกชิ้น จอดรถคลุกข้าวใส่กล่องโฟมแจกหมาหน้าหาด และรอจนกว่าหมากินหมด เพื่อเก็บกล่องโฟมไปด้วย (ตบมือสิ รอไร)” ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก บ้างก็เข้ามาคอมเม้นต์ว่า ขอให้ร่ำรวยยิ่งๆขึ้นไปนะคะ บ้างก็เข้ามาคอมเม้นต์ว่า ใครเจออุดหนุนด้วยนะพ่อค้าแบบนี้น้ำใจงามมาก บ้างก็เข้ามาคอมเม้นต์ว่าขอให้มีความสุขและก็ขายของดีๆขายหมดทุกวันเลยนะคะ ใครอยู่แถวนั้นเจอพี่เขาก็อย่าลืมเข้าไปทักทายและเข้าไปช่วยอุดหนุนพี่เขาด้วยกันนะคะ คนดีๆแบบนี้ต้องได้รับการสนับสนุน ขอขอบคุณที่มาจาก : smilesmine.com

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวชีวิตที่สุดแสนจะน่าสงสาร เป็นเรื่องราวชีวิตของเด็กน้อยคนหนึ่งที่มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่น่าสงสารมากๆ ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นว่าทุกชีวิตเกิดมาเลือกเกิดไม่ได้ อย่างชีวิตของหนูน้อย คนนี้ “น้องข้าวต้ม” เด็กน้อยที่ยากจนต้องอาศัยข้าวจากวัดเพื่อกินประทังชีวิต บางวันก็ได้ ข้าวกลางวันที่ครูแบ่งให้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ หญิง ส่ะด้วย ซึ่งเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้โพสต์เรื่องราวของลูกศิษย์ชั้นอนุบาลคนหนึ่งที่ต้องนั่งกินข้าวกลางวันที่ครูแบ่งให้ เนื่องจากแม่ไม่มีงานทำ พร้อมระบุข้อความว่า “ไม่ได้ตั้งใจขอรับบริจาค แต่น้ำใจจากพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในเฟซบุ๊ก หลั่งไหลมาช่วยน้อง พรุ่งนี้แม่ผึ้งจะนำเงินไปมอบให้ครอบครัวน้องนะคะ ครูแบ่งอะไรให้ กินทุกอย่างไม่เกี่ยง ผมอยู่กับแม่ บางวันก็ไม่มีตังค์กินขนม มีบ้านเป็นเพิงเล็ก ๆ เลือกเกิดไม่ได้จริง ๆ น่ะ ข้าวต้ม” คุณครูเผยเรื่องราวของหนูน้อย เพราะสงสารลูกศิษย์ น้องคนนี้ชื่อว่า ด.ช.ต้นกล้า หรือ น้องข้าวต้ม วัย 6 ขวบ สาเหตุที่ แม่ทำอาชีพรับจ้างรายวัน รายได้ไม่แน่นอน บางวันไม่มีเงินแม้จะซื้อข้าวกิน ส่วนนิสัยน้องข้าวต้มนั้น เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ขยัน ชอบช่วยเหลือครู ไม่เกี่ยงว่างานหนักงานเบา จึงเป็นที่รักของทุกคน ใครแบ่งอะไรให้น้องข้าวต้มก็กินหมดเกลี้ยงเพราะความหิว ขอขอบคุณที่มาจาก : เฟซบุ๊ก หญิง ส่ะด้วย

ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวชีวิตสุดแสนจะน่าสงสารของคุณยายวัยชราท่านหนึ่งที่ต้องดิ้นรนทำงานอย่างหนัก หาเงินเพื่อ มาเลี้ยงหลาน หลังจากพ่อของเด็กทิ้งไว้ เรื่องราวถูกถ่ายทอดโดยผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อ “Thipphawan Phengchan” ได้เล่าเรื่องของคุณยายคนหนึ่งที่ต้องเลี้ยงดูหลานวัย 3 ขวบ เนื่องจากแม่ของหลานจากไปเพราะอุบัติเหตุลื่นล้มจากห้องน้ำ ส่วนพ่อเด็กได้ทิ้งไปนานแล้ว ตอนนี้คุณยายประกอบอาชีพด้วยการขๅยขนม แต่ว่าขๅยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า “ใครผ่านไปผ่านมา ช่วยยายซื้อขนมหน่อยนะ ยายขๅย ตลาดหน้าพระธาตุ ยายไม่เซ้าซี้เลย แต่เห็นแกสีหน้าไม่ดีเลยเข้าไปซื้อ และถามยาย ยายบอกว่าบ้านอยู่ท่าโพธิ์ ต้องนั่งรถรับจ้างมาขๅยขนม ยายอยู่กับหลานวัย 3 ขวบกัน 2 คน ตอนนี้หลานขึ้นอนุบาล 1 แม่ของน้องจากไปเพราะอุบัติเหตุลื่นล้มจากห้องน้ำ เลยต้องผ่าเด็กออก เด็กรอดแต่แม่จากไป ส่วนพ่อเด็ก ทิ้งเด็กไปนานแล้ว ตอนยายเล่ายายน้ำตาคลอตลอดเวลา ใครผ่านไปผ่านมาช่วยยายอุดหนุนด้วยนะ 20 บาทเอง #ยายว่ามาซื้อของยายเยอะๆนะ จะได้มีค่าเทอมให้หลาน” นอกจากนี้ผู้โพสต์ยังระบุข้อความอีกว่า “ตอนนี้ใครติดต่อยายได้ช่วยหน่อยนะคะ พอดีมีหน่วยงานที่อยากจะเข้าไปดูแลช่วยเหลือยาย ตอนนี้รู้ข้อมูลแค่ว่าอยู่ที่ท่าโพธิ์ไม่ไกลจากสะพานราเมศวร์ค่ะ ช่วยหน่อยนะคะ” ขอขอบคุณที่มาจาก : Thipphawan Phengchan

เวทนาชีวิต 2 พี่น้อง หลังแม่จากไป ผู้เป็นพ่อแท้ๆ ไม่รับเลี้ยง เรื่องราวที่สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวเน็ตหลายคน เมื่อผู้ใช้เฟซบุ้กรายหนึ่งออกมาเล่าเรื่องราวว่า บีบหัวใจสุด ๆ แม่เสีย พ่อไม่รับเลี้ยง ตอนนี้เด็กทั้งสองอยู่กับยาย ซึ่งทางบ้านก็ยากจน หากใครมีจิตศรัทธาอยากช่วยบริจาค สิ่งของเสื้อผ้าเด็ก ของใช้เด็กตอนนี้เด็ก 2 คน ขาดคนในครอบครัวเลี้ยงดู อยู่กับย ายตามลำพัง เด็กชาย 1 ขวบเศษกับอีกคนเด็กชาย 7 เดือน  สาเหตุการเสีຍชีวิตของแม่เด็กนั้น เกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลว หลับแล้วเสีຍชีวิตไปเลย ส่วยยายกับหลานเล็ก ซึ่งหลังจากที่เรื่องราวเผยแพร่ออกไปก็มีคนใจดีช่วยเหลือ ส่งของใช้จำเป็น รวมทั้งโอนเงินมาช่วยเหลือสองพี่น้อง ทำให้คุณยายมีเงินเลี้ยงดูสองพี่น้องต่อไปได้     แหล่งที่มา : สมมาตร์ แก้วพงหงษ์ษา / jarm เรียบเรียงโดย : tubesmile.com

เป็นเรื่องราวชีวิตที่ชาวเน็ตต่างพูดถึงกันเป็นอย่างมาในเวลานี้ สำหรับเรื่องราวชีวิตสุดรันทดของคุณตาวัยชราท่านหนึ่งที่ต้องอาศัยอยู่อย่างยากลำบากในกระท่อมเก่าๆ ใต้ต้นมะข้าม สุขภาพก็ไม่ค่อยดี ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย ล่าสุดมีหนุ่มคนหนึ่งได้ไปเจอและได้เข้าไปสอบถามความเป็นอยู่ สุดเวทนา หน่วยงานไหนเกี่ยวข้องโปรดเข้าไปดูแลช่วยเหลือด้วย จากเฟสบุ๊ค ภิญโญ มะลิวรรณ์ ได้เเชร์เรื่องราวนี้ว่า จุกในหัวใจ! ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตคนๆหนึ่งจะถูกทอดทิ้ง ทั้งจากภาครัฐ และญาติพี่น้องบ้านใกล้เรือนได้มากขนาดนี้ คุณตา หูไม่ดี สายตาไม่ค่อยดี สุขภาพแทบจะไม่ไหว อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยว กินอยู่คนเดียว ไม่ต่างอะไรกับชีวิตที่เหมือนไม่มีคุณค่าใด ๆ ในสังคม ที่ซุกหัวนอนคุณตาไม่ต่างอะไรกับคอก เล้าสัตว์เลี้ยง ความคิดในหัวสมองผมคือ ทำไม ๆ ๆ ถึงไม่มีคนเหลียงแล ทำไมถึงไม่มีคนสนใจ โปรดเถิดนะครับ ใครที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เจ้าหน้าทั้งภาครัฐ ช่วยหน่อยเถอะครับ ได้โปรดช่วยคุณตา ชีวิต…(ขอโทษที่ใช้คำนี้) ชีวิตสัตว์เลี้ยงยังถูกดูแลดีกว่านี้ ผมอยากขอกราบทุกท่านที่อยู่ใกล้ ได้โปรดช่วยเข้าไปดูแลด้วยเถิดครับ คุณตา อาศัยอยู่ใต้ต้นมะขามใหญ่ในป่ารกๆ ผมกลัวงู สัตว์มีพิษจะทำร้ายคุณตา ที่อยู่คุณตาคือ บ้านอาด หมู่ 11 ต.บัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ฝากขอให้ทุกท่านได้โปรดช่วยเเชร์ ให้ถึงหน่วยงานขอให้มาช่วยดูแลท่านด้วยครับ กราบขอบพระคุณครับผม ขอขอบคุณที่มาจาก : …

ต้องบอกเลยว่าสังคมไทยทุกวันนี้น่ากลัวมากๆ การโกหกหลอกลวงเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา แม้กระทั่งญาติกันเองยังหลอกลวงกันได้ลง อย่างเรื่องราวที่เราจะนำเสนอในวันนี้ เป็นเรื่องราวชีวิตสุดสะเทือนใจของ “คุณลุงสุ” หลังสาวรายหนึ่งได้เจอกับลุง พร้อมได้พูดคุยกัน โดยเธอสังเกตว่าจะมีคุณลุงทำอาชีพขายของเก่าคนหนึ่งใส่ชุดซ้ำ ๆ เดิม ๆ ไม่มีบ้านแต่ไม่ยอมเป็นขอทาน หรือขอใครกิน คุณลุงจะตระเวนไปหาของเก่าตามถึงขยะมาขาย ให้พอได้มีเงินซื้อข้าวกิน จุดเริ่มต้นชีวิตข้างถนนของคุณลุงเป็นเพราะถูกพี่น้องหลอกให้ขายที่ดินก่อนชิ่งเงินหนีไปคุณลุงจึงไม่มีที่อยู่ ไม่มีบ้านให้กลับ ที่นอนก็ไม่มีต้องอาศัยนอนตามข้างทาง บนโลกออนไลน์ เฟซบุ๊กชื่อ Jutarat Damnernkit โพสต์เรื่องราวของคุณลุงสุเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ระบุ เล่าสู่กันฟังเผื่อมีหน่วยงานไหนพอจะช่วยได้บ้าง ฝากคนตะกั่วป่าที่พอจะติดต่อหน่วยงานช่วยเหลือได้ช่วยลุงแกหน่อยนะคะ ลุงแกชื่อว่า ลุงสุ เดิมเป็นคนเชิงปราง (ตลาดเก่า) มีที่มีบ้านให้อยู่อาศัย แต่ตอนนี้แม้แต่ที่นอนก็ไม่มีค่ะ โดนพี่น้องบอกให้ขายที่แล้วเอาตังไปหมดเป็นแสน ๆ บอกจะพาแกไปอยู่ด้วย แต่สุดท้ายได้ตังแล้วทิ้งให้แกมาอยู่ลำพัง พูดภาษาชาวบ้านไม่มีแม้ที่ซุกหัวนอน บ้านให้กลับก็ไม่มี ผ้าเปลี่ยนก็ไม่มี ตอนนี้แกหาเศษกระดาษลังไปขๅยเพื่อเอาไว้ซื้อข้าวกินไปวัน ๆ แกไม่ใช่ขอทานนะคะ ให้เงินแกแกก็ไม่รับ แกบอกแกหาของข้าง ๆ ถังขยะขๅยพอได้เงินกินข้าว กิ๊บได้แต่ซื้อข้าวซื้อน้ำไปให้ ช่วยเหลือตามที่พอจะช่วยได้ ใครพบเห็นพอมีเศษกระดาษลังก็ช่วย ๆ ให้แกได้เอาไปขๅยนะคะ ตอนนี้แกอยู่แถว ๆ ศาลาวินมอไซด์ ตรงข้างตลาดนัดเทศบาล(ย่านยาว) ฝากถึงคนที่อยากจะช่วยเหลือค่ะช่วย …

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวชีวิตของหญิงรายหนึ่งที่ต้องอดทนสู้ชีวิตเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูลูกทั้ง 2 คน ซึ่งเธอทำงานรับจ้างได้เงินเพียงวันละ 50 บาท ทราบชื่อ วาสนา อายุ 34 ปี อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง หลังเจอมรสุมชีวิตต้องหอบลูกมานอนที่ คอกแพะ ที่หลังคาก็รั่ว พื้นไม้เสาไม้ก็ผุพัง ชาวบ้านสงสารต่างนำข้าวของเครื่องใช้มาให้ รวมถึงนำอาหารการกินข้าวไปช่วยเหลือ ก่อนหน้านี้บ้านเป็นที่ของมัสยิด แต่พอไม่มีคนอยู่ก็ถูกทุบทิ้ง ผู้ใหญ่บ้านได้บอกว่า “เมื่อก่อนเขาอาศัยอยู่กับพ่อบุญธรรม แต่หลังจากพ่อบุญธรรมได้จากไป ก็ย้ายไปอยู่สามีจนมีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ตอนที่อยู่ด้วยกันก็ระหองระแหงมาตลอด ทั้งสองทำงานรับจ้างทั่วไป ทำอาชีพที่ไม่มีหลังแหล่ง รายได้ก็ไม่เพียงพอที่จะใช้จ่ายในครอบครัว” “ก่อนหน้านี้ก็ได้มีปัญหากับสามี หลังสามีเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผิดกฎหมาย จนต้องเข้าตะราง ภรรยาเองก็ได้ไปทำงานแกะปู อาศัยนอนบ้านคนอื่นเรื่อน ๆ บ้านละวันสองวัน ก่อนจะย้ายไปอยู่บ้านอื่น ๆ ต่อ ด้วยความที่เพื่อนบ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร เลยไม่สามารถเลี้ยงดูเธอกับลูก ๆ ได้ตลอด” “จนมีผู้ใจบุญได้ให้มาอาศัยอยู่ในเพิงแห่งนี้ ซึ่งเป็นคอกแพะ แต่ไม่ทันได้เลี้ยง ก็เลยให้ทั้ง 3 คนย้ายเข้ามาอยู่ จนกลายเป็นเรื่องราวโพสต์ลงในโซเชียล ก็เลยได้มีผู้บุญหยิบยื่นอาหารและของใช้ บ้างก็มาช่วยซ่อมแซมคอกแพะให้มีสภาพที่ดีกว่าเดิม” วาสนาได้บอกว่า “ที่ผ่านมามีปัญหากับสามีตลอด ดีใจที่มีคนมาช่วยเหลือ ก่อนหน้านี้ไม่มีที่หลับที่นอน มีลูก 2 …